๖. สุนัขเพ็ดดิกรีกับสุนัขโนเร็คคอร์ดต่างกันที่ตรงไหน
หลังจากที่ผมได้เข้าไปร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนสมาชิก
และท่านผู้รู้ในชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วแล้ว
ทำให้เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่า
การเลี้ยงสุนัขบางแก้วสักตัว
มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลย
จำเป็นจะต้องมีการศึกษากันอย่างจริงจัง
จึงจะเลี้ยงได้อย่างถูกต้อง
และถ้าจะให้ดี
ควรต้องมีใบรับรองพันธุ์ประวัติ
ซึ่งมีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่าใบเพ็ดดิกรี
เพื่อให้รู้เทือกเถาเหล่ากอของสุนัขอันจะมีประโยชน์ในการใช้วางแผนพัฒนาพันธุ์สุนัข
นอกจากนี้ในการประกวดสุนัขนั้น
สุนัขที่จะเข้าร่วมประกวด
จะต้องมีใบรับรองด้วย
จึงจะสามารถเข้าร่วมประกวดได้
ตรงจุดนี้
เจ้าปิงปองของผมเป็นเหมือนกับสุนัขเถื่อน เพราะไม่มีประวัติพ่อแม่ปู่ย่าตาทวด
ไม่รู้ว่าเป็นบางแก้วแท้หรือกลายพันธุ์
ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมประกวด
และที่แย่กว่านั้นคือ
ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิดผสมพันธุ์
เพราะไม่รู้ว่าลูกที่ออกมาจะเป็นอย่างไร
ผมพยายามสืบค้นจากอินเทอร์เน็ตดูว่า
มีที่ไหนบ้างที่ยอมให้เจ้าปิงปองขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขบางแก้ว
ก็ไปพบบทความของคุณณัติวัฒน์
บนเว็บไซต์ของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข(ประเทศไทย)
ซึ่งได้อธิบายถืงสุนัขเพ็ดดิกรี
และสุนัขโนเร็คคอร์ดไว้ดังนี้
สุนัข NO RECORD หมายถึง
สุนัขที่มาขึ้นทะเบียนตัวกับทางสมาคมฯ
โดยไม่มีข้อมูล พ่อแม่
หรือปู่ ย่า ตา
ยาย (ส่วนสาเหตุที่ไม่มีข้อมูล
มีหลายประการ จะไม่ขอกล่าวในที่นี้)
ซึ่งสมาคมฯ ได้รับขึ้นทะเบียนมาเป็นเวลาประมาณ
4 ปีมาแล้ว และปิดรับการขึ้นทะเบียนไปเมื่อวันที่
20 ธ.ค. 2545 โดยทางสมาคมฯ ได้ทำตามมติของสมาชิกส่วนใหญ่ที่เข้าประชุมสามัญประจำปี
เมื่อเดือนเมษายน
2545
สุนัขที่มี PEDIGREE หมายถึง
สุนัขที่มีข้อมูล
พ่อ แม่ ปู่ ย่า
ตา ยาย จะให้ดีควรต้องมี Pedigree เต็มใบ
(3 Generation) คือมีข้อมูลไปถึงรุ่น
ปู่ทวด ย่าทวด
ตาทวด ยายทวด
สำหรับท่านที่สนใจในรายละเอียดของใบเพ็ดดิกรีว่ามีกี่ประเภทและจะขอได้อย่างไรนั้น
สามารถหาอ่านได้ในกระทู้ของชุมชนคนรักสุนัขบางแก้วเรื่องใบรับรองสายพันธ์(ภาค
2) ใครว่าไม่สำคัญ http://www.hightidediving.com/cgi-bin/webboard/generate.cgi?content=0084&board=bangkaew
แต่สำหรับผมแล้ว
ใบเพ็ดดิกรีสำหรับเจ้าปิงปองเป็นสิ่งที่อยู่ไกลเกินฝันเสียแล้ว ที่พอจะฝันได้บ้างนั้นเป็นแค่ใบรับรองการขึ้นทะเบียนสุนัขแบบโนเร็คคอร์ด
แต่ฝันนั้นกลับสลายลงไปอีก
เมื่ออ่านพบข้อความที่ระบุไว้ว่าปิดรับการจดทะเบียนสุนัขแบบโนเร็คคอร์ดไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
ในขณะที่ผมและเจ้าปิงปองนอนฝันสลายอยู่นั้น
มีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น
ซึ่งทำให้ผมคิดถึงสุภาษิตของฝรั่งที่กล่าวไว้ว่า
"Behind
dark cloud, the sun is still shining" ผมแปลเอาเองว่า
"หลังเมฆดำทะมึน
แสงอาทิตย์ยังสาดส่อง"
เจ้าปิงปองมีความหวังขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้รับการติดต่อจากสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข
(ประเทศไทย)
ว่ายังเปิดโอกาสให้สุนัขไทยพันธุ์บางแก้วได้รับการขึ้นทะเบียนแบบโนเร็คคอร์ด
นัยว่าเพื่อต้องการให้สุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วได้มีโอกาสพัฒนาสายพันธุ์ เพราะทางสมาคมฯมีแนวทางว่าในปี
พ.ศ. 2547 จะยื่นจดทะเบียนสุนัขพันธุ์ไทยบางแก้วต่อสมาพันธุ์สุนัขอาเชี่ยน
[ AKU ] และใน ปี
พ.ศ. 2548 จะขอยื่นต่อสมาพันธุ์สุนัขโลก [ FCI ] แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องผ่านการตรวจสอบว่าเป็นพันธุ์บางแก้วแท้
โดยจะต้องแนบรูป
๒ ใบ
(ด้านข้างกับใบหน้า)
พร้อมใบขอขึ้นทะเบียนส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญของสมาคมฯพิจารณา
ข่าวนี้สร้างความปิติยินดีให้กับผมและเจ้าปิงปอง
(ถ้ามันจะรับรู้ได้)เป็นอย่างยิ่ง ผมรีบจับมันอาบน้ำผัดหน้าทาแป้ง
ชำระล้างความมอมแมมออกไป
แล้วพามันไปถ่ายรูป
แต่ก็ไม่ง่ายเลย
เพราะมันไม่ยอมอยู่นิ่ง
โชคดีที่ผมได้เรียนรู้เทคนิคการถ่ายรูปสัตว์จากเว็บไซต์ของคุณโป๋อยู่บ้าง
จึงถ่ายได้รูปออกมาดีพอสมควร
แต่ก็เสียฟิล์มไปเกือบหมดม้วน
ผมเลือกรูปที่สวยที่สุด
๓ รูป
ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปให้สมาคมฯ
พร้อมกับใบสมัครเป็นสมาชิกของผม
และใบขอจดทะเบียนสุนัขของเจ้าปิงปอง
ค่าใช้จ่ายไม่แพงอย่างที่คิด
เสียค่าสมาชิกปีละ
๒๐๐ บาท
และค่าจดทะเบียนสุนัขตัวละ
๑๐๐
บาทเท่านั้นเอง
ผมได้โพสต์เทคนิคการถ่ายรูปสุนัขที่ผมใช้เอาไว้ที่เว็บชุมชนคนรักสุนัขบางแก้ว
ซึ่งขอถือโอกาสนี้
นำมาแนะนำให้ท่านผู้อ่านได้ทราบไว้เผื่อว่าบางท่านอาจมีโอกาสได้นำเทคนิคนี้ไปใช้บ้าง
|
|
|
|
|
หลังจากรอฟังผลการพิจารณาจากสมาคมฯเป็นเวลาเกือบเดือน
ก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของสมาคมฯว่า
เจ้าปิงปองสามารถสอบผ่านได้รับการขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯเป็นที่เรียบร้อย
สร้างควาามลิงโลดใจให้ผมเป็นอย่างยิ่ง
ผมอยากจะแนะนำท่านผู้อ่านที่เลี้ยงสุนัขบางแก้วอยู่ขณะนี้ว่า
ถ้าไม่แน่ใจว่าสุนัขของตนเองจะกลายพันธุ์หรือไม่
ให้ลองสมัครเป็นสมาชิกและขอขึ้นทะเบียนสุนัขบางแก้วของตนกับสมาคมฯดูซิครับ
ถ้าใช่สุนัขบางแก้วแท้ สมาคมฯจะขึ้นทะเบียนให้
ท่านจะสามารถนำสุนัขของท่านไปร่วมประกวดในงานประกวดสุนัขสำคัญๆได้ และยังสามารถหาคู่ผสมพันธุ์ให้กับสุนัขของตนเองได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
สำหรับเจ้าปิงปองนั้น
แม้ว่าจะได้การรับรองว่าเป็นสุนัขบางแก้วพันธุ์แท้
และได้ขึ้นทะเบียนสุนัขกับสมาคมฯแล้วก็ตาม
แต่เนื่องจากมันมีนิสัยค่อนข้างดุ ก้าวร้าว
ไปคำรามข่มขู่เจ้าโบอยู่บ่อยๆ
จนเจ้าโบกลัวฤทธิ์เดชของบางแก้ว
ต้องคอยหลบทางให้มันตลอดเวลาดังที่ผมจะเล่าต่อไป
ผมคิดว่าคงเอาเจ้าปิงปองไปทำหมันจะดีกว่า แม้ว่าอยากจะได้ลูกมันก็ตาม
ท่านผู้อ่านที่สนใจจะขอขึ้นทะเบียนสุนัขบางแก้วสามารถติดต่อสมาคมฯ
ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์
02-9903428-9
หรือดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ http://www.kcthailand.com
แต่ขอแนะนำว่า
ท่านควรทำใจไว้ก่อนว่า
ถ้าท่านส่งสุนัขบางแก้วแสนรักไปขอขึ้นทะเบียนแล้ว
เกิดสุนัขท่านสอบไม่ผ่าน
ไม่ได้รับการรับรองจากสมาคมฯ
ว่าเป็นสุนัขบางแก้วพันธุ์แท้แล้วละก็ อย่าได้ทอดทิ้งมันนะครับ ถือว่าเป็นคู่บุญคู่กรรมแต่ปางก่อนก็แล้วกัน